หน้าบ้านพักครู

บทคัดย่อ
   การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาและหาประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้การสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทางร่วมกับเทคนิค STAD วิชาภาษาอังกฤษ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษก่อนเรียนและหลังเรียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้การสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทางร่วมกับเทคนิค STAD และ 3) ศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้การสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทางร่วมกับเทคนิค STAD  กลุ่มตัวอย่าง คือ  นักเรียนชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 2  ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554 โรงเรียนเทศบาลวัดทรงธรรม อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ  จำนวน 1 ห้อง มีนักเรียนจำนวน 36 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย  1) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้การสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทางร่วมกับเทคนิค STAD จำนวน 6 แผน ๆ ละ 3 ชั่วโมง รวมทั้งหมด 18 ชั่วโมง  2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน และ
3) แบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ โดยใช้การสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทางร่วมกับเทคนิค STAD วิเคราะห์ข้อมูลโดย การหาค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสถิต t-test แบบไม่อิสระจากกัน (Dependent Samples)
   ผลการวิจัยพบว่า
   1.  ประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้การสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทางร่วมกับเทคนิค STAD วิชาภาษาอังกฤษ จำนวน 6 แผน มีค่าเท่ากับ 81.88/82.64 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 75/75 
   2.  ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ โดยใช้การสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทางร่วมกับเทคนิค STAD หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน  อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
   3.  ความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ โดยใช้การสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทางร่วมกับเทคนิค STAD โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.53 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.60)